กว่า100 ปีมาแล้ว ที่เครื่องพิมพ์ดีดได้กลายเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการพิมพ์เอกสารสำหรับคนไทยโดยไม่ต้องลงมือลงแรงคัดตัวบรรจงให้เมื่อยถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในทุก ๆ วงการมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้กันเลยทีเดียว
และในวันนี้ เห็นทีว่า เครื่อง พิมพ์ดีดจะกลายเป็นแค่อดีตให้เราได้หวนรำลึกกันเสียแล้ว เมื่อบริษัทก็อดเรจแอนด์ บอยซ์ ผู้ผลิตพิมพ์ดีดเจ้าสุดท้ายของโลกได้ปิดโรงงานผลิตพิมพ์ดีดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนั่นหมายความว่า นอกเหนือจากพิมพ์ดีดที่หลายคนยังคงเก็บรักษาไว้ และพิมพ์ดีดที่ยังคงวางขายในตลาดทุกวันนี้แล้ว ต่อ ไปนี้ก็จะไม่มีพิมพ์ดีดรุ่นใหม่ ๆ ออกมาให้เห็นอีกต่อไป และอุปกรณ์ชนิดนี้ก็จะกลายเป็นตำนานเอาไว้เล่าให้ลูกหลานได้ฟังกันเท่านั้น
สำหรับเครื่องพิมพ์ดีด เป็นอุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นโดย นายเฮนรี่ มิล วิศวกรชาวอังกฤษ ที่สิทธิบัตรในปี พ.ศ.2237 หรือ 317 ปีก่อนซึ่งพิมพ์ดีดเครื่องแรก ๆ นั้น แป้นพิมพ์ถึง 7 แถว 84 ปุ่มใช้งานได้ปุ่มละ 1 ตัวอักษร และมีลักษณะเป็นเครื่องพิมพ์ดีดแบบดีดก้านที่เมื่อกดปุ่มตัวอักษรแล้ว ก้านตัวอักษรนั้นก็จะดีดประทับลงบนกระดาษนั่นเอง แต่เครื่องพิมพ์ดีดแบบ 7 แถวนี้มีใช้อยู่เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เพราะไม่นาน ก็ได้มีการพัฒนาให้มีปุ่มShift ที่สามารถพิมพ์ได้ปุ่มละ 2 ตัวอักษรทำให้เครื่องพิมพ์ดีดมีขนาดเล็กลง ซึ่งเครื่องพิมพ์ดีดในระยะแรกเริ่มนั้น ได้ถูกนำมาใช้จำกัดในวงการราชการ และการพิมพ์เท่านั้น เพราะจำเป็นต้องพิมพ์ตัวอักษรที่อ่านง่ายในการส่งเอกสารทางราชการ และการพิมพ์หนังสือให้อ่านได้ง่าย ก่อนจะมีการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดแบบมาตรฐานออกสู่ตลาดสหรัฐฯ ในปี พ.ศ.2416 และถูกพัฒนาเป็นเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าในเวลาต่อมา
สำหรับประวัติเครื่องพิมพ์ดีดในประเทศไทยนั้น ตาม บันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่ามีการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดขึ้นเครื่องแรกในปี พ.ศ.2438โดยพิมพ์ดีดเครื่องแรกนี้ ได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย เอ็ดวิน ฮันเตอร์แม็คฟาร์แลนด์ เลขานุการส่วนพระองค์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเครื่องพิมพ์ดีดไทยในสมัยแรกนั้นเป็นชนิดอักษร 7 แถว เนื่องจากภาษาไทยมีตัวอักษรและสระมาก และ หลังจากที่มีการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดออกมาแล้วแม็คฟาร์แลนด์ก็ได้เสนอให้สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทดลองพิมพ์และปรากฎว่าเป็นที่พอพระทัยเป็นอย่างมากจากนั้นก็ได้มีการสั่งผลิตและนำเข้าเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยในเวลาต่อมา ก่อนที่จะได้รับความนิยมเรื่อยมา และมีพัฒนาการเป็นพิมพ์ดีดไฟฟ้าอย่างที่มีใช้กันในปัจจุบัน
เครื่องพิมพ์ดีดถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยมาเนิ่นนาน โดยเฉพาะในราชการ จน เมื่อมีการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้อย่างกว้างขวางเมื่อประมาณ 20 ปีก่อนเครื่องพิมพ์ดีดก็ได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อย ๆเนื่องจากมีคอมพิวเตอร์ซึ่งใช้งานได้ง่ายกว่านั่นเอง
จนถึงวันนี้ ใน ยุคที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับคนทั่วโลก และใคร ๆก็มีคอมพิวเตอร์ใช้กันหมดแล้วเครื่องพิมพ์ดีดเลยไม่ได้รับความสนใจและกลายเป็นเครื่องมือที่ตกยุคไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ในบางสำนักงานหรือสถานที่ราชการบางแห่ง ก็ยังคงใช้พิมพ์ดีดอยู่บ้างทำให้ยังมีการผลิตเรื่อยมาจนถึงวันนี้ แต่เมื่อช่วง 5 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่ายอดขายของเครื่องพิมพ์ดีดจะตกฮวบคล้ายกับไม่มีใครต้องการและจำเป็นต้องใช้มันอีกต่อไปแล้วบริษัทผลิตเครื่องพิมพ์ดีดหลาย แห่งจึงค่อย ๆ ปิดตัวลง เหลือเพียงก็อดเรจ แอนด์ บอยซ์ บริษัทผลิตพิมพ์ดีดเจ้าสุดท้าย ที่ในที่สุดก็ต้องตัดสินใจปิดตัวลงในปีนี้ ด้วยการผลิตชุดสุดท้ายที่ 200 เครื่องก่อนเครื่องพิมพ์ดีดจะกลายเป็นเพียงแค่เรื่องเล่า ที่จะค่อย ๆเลือนหายไปตามกาลเวลา
ที่มา kapook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น