วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ผลวิจัยเผย ชายที่มีนิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้ เป็นที่ดึงดูด จากผู้หญิงมากกว่า



ผลวิจัยเผย ชายที่มีนิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้ เป็นที่ดึงดูด จากผู้หญิงมากกว่า

Mthai news : นัก วิจัยจาก  อังกฤษ ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทำการศึกษาและวิจัยนิ้วมือ ที่มีผลต่อลักษณะบุคลิกภาพโดยมีการเปิดเผยผลการวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์ชีวภาพของราชสมาคมอังกฤษพบว่าผู้ชายที่มีนิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้นั้นจะมีแรงดึงดูดให้ผู้หญิงมาสนใจได้มากกว่าอีกทั้งยังจะสามารถสานสัมพันธ์กับฝ่ายหญิงได้ยาวนานกว่าด้วย
ทั้งนี้การศึกษาดังกล่าว ได้ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างชาย 49 คนให้นักศึกษาผู้หญิงอายุ 18-34 ปีมากกว่า 80 คน ดูภาพชายวัยใกล้เคียงกันโดยมีการบันทึกเสียง และเก็บตัวอย่างกลิ่นกายก่อนจะให้ผู้หญิงดูรูปชายเปรียบเทียบ ปรากฎว่า ผู้หญิงเลือกผู้ชายที่มีนิ้วนางยาว มากกว่านิ้วชี้ยาว

ส่วน สาเหตุที่นิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้นั้น รายงานระบุว่าเกิดจากฮอร์โมนเพศชายหรือฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนสูงซึ่งยังมีอิทธิพลต่อโครงสร้างใบหน้าของผู้ชายแต่ละคนด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งมือขวาที่จะวัดว่าผู้ชายคนนั้นได้รับฮอร์โมนเทสโทสเทอโร นขณะอยู่ในครรภ์มารดามากน้อยเพียงใด

ก่อนหน้านี้ผลวิจัยของนักวิทยาศาสตร์รายงานว่า ผู้ชายที่มีนิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้ยังมีแนวโน้มที่รวยกว่าผู้ชายที่มีนิ้วชี้ยาวรวมทั้งยังมีพฤติกรรมส่ำส่อนทางเพศ เอาใจใส่รูปลักษณ์ภายนอก อาทิ เล่นกล้ามและชอบเล่นดนตรี  แต่ในทางกลับกัน ก็มีโอกาสเป็นบ้า มีแนวโน้มติดคุกติดตะราง หรือถูกฆาตรกรรมมากกว่าชายที่มีนิ้วชี้ยาว

อวสานเครื่องพิมพ์ดีด

กว่า100 ปีมาแล้ว ที่เครื่องพิมพ์ดีดได้กลายเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการพิมพ์เอกสารสำหรับคนไทยโดยไม่ต้องลงมือลงแรงคัดตัวบรรจงให้เมื่อยถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในทุก ๆ วงการมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้กันเลยทีเดียว
          และในวันนี้ เห็นทีว่า เครื่อง พิมพ์ดีดจะกลายเป็นแค่อดีตให้เราได้หวนรำลึกกันเสียแล้ว เมื่อบริษัทก็อดเรจแอนด์ บอยซ์ ผู้ผลิตพิมพ์ดีดเจ้าสุดท้ายของโลกได้ปิดโรงงานผลิตพิมพ์ดีดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนั่นหมายความว่า นอกเหนือจากพิมพ์ดีดที่หลายคนยังคงเก็บรักษาไว้ และพิมพ์ดีดที่ยังคงวางขายในตลาดทุกวันนี้แล้ว ต่อ ไปนี้ก็จะไม่มีพิมพ์ดีดรุ่นใหม่ ๆ ออกมาให้เห็นอีกต่อไป และอุปกรณ์ชนิดนี้ก็จะกลายเป็นตำนานเอาไว้เล่าให้ลูกหลานได้ฟังกันเท่านั้น
          สำหรับเครื่องพิมพ์ดีด เป็นอุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นโดย นายเฮนรี่ มิล วิศวกรชาวอังกฤษ ที่สิทธิบัตรในปี พ.ศ.2237 หรือ 317 ปีก่อนซึ่งพิมพ์ดีดเครื่องแรก ๆ นั้น แป้นพิมพ์ถึง 7 แถว 84 ปุ่มใช้งานได้ปุ่มละ 1 ตัวอักษร และมีลักษณะเป็นเครื่องพิมพ์ดีดแบบดีดก้านที่เมื่อกดปุ่มตัวอักษรแล้ว ก้านตัวอักษรนั้นก็จะดีดประทับลงบนกระดาษนั่นเอง แต่เครื่องพิมพ์ดีดแบบ 7 แถวนี้มีใช้อยู่เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เพราะไม่นาน ก็ได้มีการพัฒนาให้มีปุ่มShift ที่สามารถพิมพ์ได้ปุ่มละ 2 ตัวอักษรทำให้เครื่องพิมพ์ดีดมีขนาดเล็กลง ซึ่งเครื่องพิมพ์ดีดในระยะแรกเริ่มนั้น ได้ถูกนำมาใช้จำกัดในวงการราชการ และการพิมพ์เท่านั้น เพราะจำเป็นต้องพิมพ์ตัวอักษรที่อ่านง่ายในการส่งเอกสารทางราชการ และการพิมพ์หนังสือให้อ่านได้ง่าย ก่อนจะมีการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดแบบมาตรฐานออกสู่ตลาดสหรัฐฯ ในปี พ.ศ.2416 และถูกพัฒนาเป็นเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าในเวลาต่อมา
           สำหรับประวัติเครื่องพิมพ์ดีดในประเทศไทยนั้น ตาม บันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่ามีการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดขึ้นเครื่องแรกในปี พ.ศ.2438โดยพิมพ์ดีดเครื่องแรกนี้ ได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย เอ็ดวิน ฮันเตอร์แม็คฟาร์แลนด์ เลขานุการส่วนพระองค์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเครื่องพิมพ์ดีดไทยในสมัยแรกนั้นเป็นชนิดอักษร 7 แถว เนื่องจากภาษาไทยมีตัวอักษรและสระมาก และ หลังจากที่มีการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดออกมาแล้วแม็คฟาร์แลนด์ก็ได้เสนอให้สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทดลองพิมพ์และปรากฎว่าเป็นที่พอพระทัยเป็นอย่างมากจากนั้นก็ได้มีการสั่งผลิตและนำเข้าเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยในเวลาต่อมา ก่อนที่จะได้รับความนิยมเรื่อยมา และมีพัฒนาการเป็นพิมพ์ดีดไฟฟ้าอย่างที่มีใช้กันในปัจจุบัน

         เครื่องพิมพ์ดีดถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยมาเนิ่นนาน โดยเฉพาะในราชการ จน เมื่อมีการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้อย่างกว้างขวางเมื่อประมาณ 20 ปีก่อนเครื่องพิมพ์ดีดก็ได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อย ๆเนื่องจากมีคอมพิวเตอร์ซึ่งใช้งานได้ง่ายกว่านั่นเอง
           จนถึงวันนี้ ใน ยุคที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับคนทั่วโลก และใคร ๆก็มีคอมพิวเตอร์ใช้กันหมดแล้วเครื่องพิมพ์ดีดเลยไม่ได้รับความสนใจและกลายเป็นเครื่องมือที่ตกยุคไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ในบางสำนักงานหรือสถานที่ราชการบางแห่ง ก็ยังคงใช้พิมพ์ดีดอยู่บ้างทำให้ยังมีการผลิตเรื่อยมาจนถึงวันนี้ แต่เมื่อช่วง 5 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่ายอดขายของเครื่องพิมพ์ดีดจะตกฮวบคล้ายกับไม่มีใครต้องการและจำเป็นต้องใช้มันอีกต่อไปแล้วบริษัทผลิตเครื่องพิมพ์ดีดหลาย แห่งจึงค่อย ๆ ปิดตัวลง เหลือเพียงก็อดเรจ แอนด์ บอยซ์ บริษัทผลิตพิมพ์ดีดเจ้าสุดท้าย ที่ในที่สุดก็ต้องตัดสินใจปิดตัวลงในปีนี้ ด้วยการผลิตชุดสุดท้ายที่ 200 เครื่องก่อนเครื่องพิมพ์ดีดจะกลายเป็นเพียงแค่เรื่องเล่า ที่จะค่อย ๆเลือนหายไปตามกาลเวลา

ที่มา kapook.com

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เอาอาหารเหนือมาให้ดูกันครับ ใครมีโครงการมาเที่ยวเหนือบ้างครับ

เอาอาหารเหนือมาให้ดูกันครับ ใครมีโครงการมาเที่ยวเหนือบ้างครับ
น้ำพริกหนุ่ม

น้ำพริกอ่อง

ของกิ๋นบ้านเฮา เลือกเอาเต๊อะนาย
เป๋นของพื้นเมือง เป๋นเรื่องสบาย
ล้วนซะป๊ะมากมี ฟังหื้อดีเน้อ
ฟั่งใคร่อยากจนเผลอ มาบลืนน้ำลาย


แก๋งแคจิ้นงัว ไส้อั่วจิ้นหมู
แกงหน่อไม้ซาง คั่วบะถั่วปู
น้ำพริกแมงดา กับน้ำพริกอ่อง
คั่วผักกุ่มดอง หนังปองน้ำปู๋


แก๋งผักเซียงดา ใส่ปลาแห้งตวยเน้อเจ้า
แก๋งบอนแก๋งตุน กับแก๋งหยวกกล้วย
ตำบะหนุนยำเตา ส้าบะเขือผ่อย
แก๋งเห็ดแก๋งหอย ก้อยปล๋าดุกอุย


แก๋งบะฆ้อนก้อม แก๋งอ่อมเครื่องใน
แก๋งผักเฮือดลอ อ๋อ ยำหน่อไม้
น้ำเมี่ยงน้ำตับ กับแก๋งฮังเล
น้ำพริกอี่เก๋ เฮ้....ยำจิ้นไก่


ลาบงัวตั๋วลาย (ลายโก้งเน้อครับ) ลาบควายตั๋วดำ
ลาบไก่ยกมา ลาบปล๋าสร้อยก่ลำกะ
กิ๋นอะหยังระวังพ่อง หลุต๊องจะว่าบ่บอก
ส่วนบ้านผมกิ๊กก๊อก ยอกแก๋งโฮ๊ะตึงวัน


ของกิ๋นบ้านเฮา เลือกเอาเต๊อะนาย
เป๋นของพื้นเมือง เป๋นเรื่องสบาย
ล้วนซะป๊ะมากมี ฟังหื้อดีเน้อ
ฟั่งใคร่อยากจนเผลอ มาบลืนน้ำลาย


มาจากเนื้อเพลง ของกิ๋นคนเมือง  ร้องโดยจรัล มโนเพ็ชร   ได้ยินเพลงนี้ทีไร  ทำให้หิวข้าวทุกทีเลย

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ลัดดาแลนด์ในอดีต ข้อมูลที่ใครอาจยังไม่ทราบ












จากหนังสือ อสท ปี 2519 

ขอบคุณคุณ Reds (cokethai.com)เจ้าของภาพครับ

ลัดดาแลนด์ เชียงใหม่